ปั๊มน้ำแบบความเร็วเดียว ความเร็วแปรผัน และอินเวอร์เตอร์ มีความแตกต่างกันอย่างไร?

การดำเนินการตามกฎข้อบังคับ Dedicated Purpose Pool Pump (DPPP) โดยกระทรวงพลังงานของสหรัฐอเมริกา (DOE) ได้ก่อให้เกิดการอภิปรายที่สำคัญเกี่ยวกับการใช้ปั๊ม....

การดำเนินการตามกฎข้อบังคับ Dedicated Purpose Pool Pump (DPPP) โดยกระทรวงพลังงานของสหรัฐอเมริกา (DOE) ได้ก่อให้เกิดการอภิปรายที่สำคัญเกี่ยวกับการใช้ปั๊มความเร็วแปรผันกับสระว่ายน้ำ โดยข้อบังคับเหล่านี้กำหนดให้ปั๊มสระว่ายน้ำจะต้องปรับความเร็วได้ตามมาตรฐาน DPPP

ตามข้อบังคับที่เสนอ กำหนดให้มอเตอร์ที่มีกำลังหรือแรงม้ารวม (THP) เท่ากับหรือมากกว่า 1.15 THP จัดให้อยู่ในประเภท “ปั๊มความเร็วแปรผัน คือ เป็นปั๊มที่สามารถปรับความเร็วรอบได้” เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดใหม่นี้ มอเตอร์ควรมีตัวเลือกความเร็วอย่างน้อย 4 ระดับ จึงจะสอดคล้องกับมาตรฐาน DPPP โดยอิงตามประสิทธิภาพของปั๊มที่มีมอเตอร์แบบปรับความเร็วรอบได้ โดยใช้กับสระว่ายน้ำบนดินเป็นหลัก

นอกจากนี้ ทาง Hayward ผู้ผลิตอุปกรณ์เกี่ยวกับอุตสาหกรรมสระว่ายน้ำที่มีชื่อเสียง รายงานว่าประมาณ 75% ของเจ้าของสระว่ายน้ำเลือกใช้งานปั๊มแบบปรับความเร็วได้ เพื่อใช้งานกับสระใหม่ของพวกเขา

ทำให้เกิดคำถามตามมาว่า: ทำไมปั๊มสระว่ายน้ำจึงพัฒนาจากความเร็วเดียวมาเป็นความเร็วแบบแปรผัน และตอนนี้มีการพัฒนามาเป็นปั๊มสระว่ายน้ำอินเวอร์เตอร์ขั้นสูงอีกด้วย อะไรคือความแตกต่างระหว่างปั๊มเหล่านี้ และปั๊มประเภทใดที่แสดงถึงการวิวัฒนาการขั้นสูงสุดในเทคโนโลยีปั๊มสำหรับสระว่ายน้ำ บทความนี้มีคำตอบรออยู่

บทบาทของปั๊มกับสระว่ายน้ำ

ในสระว่ายน้ำ ปั๊มสระว่ายน้ำมีบทบาทสำคัญเช่นเดียวกับหัวใจ ปั๊มจะหมุนเวียนน้ำผ่านการหมุนของใบพัด ช่วยอำนวยความสะดวกในการกรองและการบำบัดเพื่อรักษาคุณภาพน้ำให้สะอาด อย่างไรก็ตาม ปั๊มสระว่ายน้ำใช้พลังงานเป็นจำนวนมากเช่นกัน ปัจจุบันมีปั๊มสระว่ายน้ำที่จำหน่ายอยู่ในท้องตลาด อยู่ 3 ประเภท ได้แก่ ปั๊มความเร็วเดียว ปั๊มแบบปรับความเร็วรอบได้ และปั๊มสระว่ายน้ำอินเวอร์เตอร์ที่ทำงานแบบไม่มีสะดุด

ความแตกต่างระหว่างปั๊มสระว่ายน้ำแต่ละชนิด

  1. การควบคุมความเร็ว – เป็นความแตกต่างขั้นพื้นฐาน

ปั๊มสระว่ายน้ำความเร็วคงที่ (ความเร็วเดียว)

มอเตอร์ความเร็วเดียวจะทำงานที่ความเร็วคงที่ซึ่งไม่สามารถปรับได้ หมายความว่าไม่ว่าจะเป็นการหมุนเวียนน้ำเพื่อการกรอง การทำคามสะอาดถังกรองด้วยการล้างแบบย้อนกลับทิศทาง (Backwash) การทำความร้อน หรือในการฆ่าเชื้อโรค ปั๊มสระว่ายน้ำความเร็วเดียวจะทำงานที่ความเร็วคงที่ อัตราการไหลเป็นไปตามที่กำหนด และใช้พลังงานไฟฟ้าในปริมาณที่สม่ำเสมอ

ส่งผลให้สิ้นเปลืองพลังงานและมีเสียงรบกวนจากการทำงานอย่างมาก เพื่อช่วยประหยัดค่าไฟฟ้า เจ้าของสระหลายคนจะเปิดปั๊มน้ำความเร็วเดียวให้ทำงานเพียงวันละ 4 หรือ 8 ชั่วโมงต่อวันเท่านั้น เพียงแต่วิธีการนี้ไม่เหมาะสำหรับการรักษาคุณภาพน้ำให้เหมาะสมแก่การว่ายน้ำ

ปั๊มสระว่ายน้ำแบบปรับความเร็วได้ (ความเร็วผันแปร)

คุณสมบัติตามชื่อที่นิยมเรียกัน ปั๊มสระว่ายน้ำแบบปรับความเร็วได้ และมีตัวเลือกความเร็วอยู่ 3 ระดับ: ความเร็วสูง ปานกลาง และต่ำ ทำงานคล้ายกับปั๊มความเร็วเดียว แต่สามารถปรับตั้งความเร็วได้ตั้งแต่ 3 – 8 ระดับ โดยผู้ใช้งานสามารถเลือกความเร็วให้เหมาะสมตามความต้องการเฉพาะงานได้

เมื่อเทียบกับปั๊มแบบความเร็วเดียว ปั๊มแบบปรับความเร็วได้จะมีต้นทุนเริ่มต้นที่สูงกว่า แต่จะได้ประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระหว่างการทำงานที่ความเร็วต่ำ สามารถลดการใช้พลังงานได้มากกว่า 50%  และระดับเสียงรบกวนก็ลดลงเช่นเดียวกัน

ปั๊มสระว่ายน้ำระบบอินเวอร์เตอร์

เทคโนโลยีอินเวอร์เตอร์ช่วยให้ปั๊มปรับความถี่ของการจ่ายไฟผ่านระบบควบคุมอินเวอร์เตอร์ได้ จึงทำให้สามารถปรับความเร็วได้แบบเรียลไทม์ ระบบควบคุมอัจฉริยะนี้ทำให้การปรับควบคุมความเร็วเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่สะดุด มีตัวเลือกความเร็วที่หลากหลายสำหรับการทำงานในสถานการณ์ต่างๆ  ในขณะเดียวกันก็มั่นใจได้ถึงประสิทธิภาพในการใช้พลังงาน

ไม่เพียงเท่านั้น ปั๊มสระว่ายน้ำระบบอินเวอร์เตอร์ยังเลือกใช้มอเตอร์ที่ประหยัดพลังงานที่สุดในตลาดปัจจุบัน ซึ่งหมายความว่าด้วยอัตราการไหลที่เท่ากัน ปั๊มอินเวอร์เตอร์จะใช้พลังงานไฟฟ้าน้อยกว่าปั๊มความเร็วเดียว

  1. ประสิทธิภาพด้านการใช้พลังงาน – เป็นข้อแตกต่างที่สำคัญ

ดังที่เกริ่นไว้ข้างต้น ความแตกต่างพื้นฐานที่สุดระหว่างความเร็วเดี่ยวและความเร็วแปรผันคือการควบคุมความเร็ว ดังนั้น ปั๊มความเร็วเดียวจึงสิ้นเปลืองพลังงานมากที่สุดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และการปรับความเร็วที่แม่นยำยิ่งขึ้นจะทำให้ระบบปั๊มสระว่ายน้ำใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

การควบคุมความเร็วไม่ถูกจำกัดในบางกรณีเท่านั้น ปั๊มสระว่ายน้ำอินเวอร์เตอร์ของ Aquagem สามารถควบคุมความเร็วแบบไม่มีสะดุดตั้งแต่ 30% ถึง 100% มีตัวเลือกความเร็วที่หลากหลายสำหรับการทำงานในสถานการณ์ต่างๆ และบรรลุถึงจุดสมดุลที่สมบูรณ์แบบระหว่างความหลากหลายในการทำงานและประสิทธิภาพในการใช้พลังงานควบคู่กันไป

ยกตัวอย่าง เช่น สระว่ายน้ำขนาด 50 ลบ.ม. ใช้อัตราการไหลเท่ากันที่ 25 ลบ.ม./ชม. @ 8 ม. ปั๊มความเร็วเดียวต้องการพลังงาน 1.5 กิโลวัตต์ ปั๊มอินเวอร์เตอร์ InverPro ของ Aquagem ต้องการพลังงานเพียง 1.1 กิโลวัตต์ และที่อัตราการไหล 10 ลบ.ม./ชม. การใช้พลังงานของ InverPro อยู่ที่ 0.1 กิโลวัตต์ เท่านั้น ในกรณีตัวอย่างนี้ ปั๊ม InverPro ประหยัดพลังงานได้มากกว่าปั๊มสระว่ายน้ำความเร็วเดียวถึง 15 เท่า ซึ่งสามารถประหยัดพลังงานไฟฟ้าได้ 8176 kWh และลดค่าไฟได้ถึง 1,635.2 ยูโรตลอดทั้งปี

  1. ระดับของเสียง – ความแตกต่างจากการได้สัมผัส

คำถามจะคล้ายๆ กัน เช่น “ฉันจะลดเสียงปั๊มสระว่ายน้ำของฉันลงได้อย่างไร” หรือ “วิธีทำให้ปั๊มสระว่ายน้ำของฉันเงียบกว่านี้” ซึ่งมักจะพบได้จากการค้นหาใน Google

ระดับเสียงที่ดังของปั๊มสระว่ายน้ำความเร็วเดียวเป็นปัญหาที่มีมาอย่างยาวนานในอุตสาหกรรมอุปกรณ์สระว่ายน้ำ ปั๊มแบบปรับความเร็วรอบได้ มีการปรับปรุงบางอย่างเพื่อช่วยลดเสียงรบกวน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อทำงานที่ความเร็วต่ำ อย่างไรก็ตามยังคงไม่สามารถขจัดเสียงรบกวนได้อย่างสมบูรณ์

ที่จริงแล้ว ด้วยนวัตกรรมทางเทคโนโลยี ปั๊มสระว่ายน้ำระบบอินเวอร์เตอร์สามารถให้เสียงขณะทำงานต่ำถึง 33 เดซิเบล หรือแม้แต่เสียงที่เงียบกว่าตู้เย็นด้วยซ้ำ InverPro ปั๊มสระว่ายน้ำระบบอินเวอร์เตอร์ของ Aquagem มาพร้อมกับเทคโนโลยี InverSilence® ที่พัฒนาขึ้นเอง และใช้มอเตอร์ DC แบบไร้แปรงถ่านที่มีประสิทธิภาพสูงเพื่อให้การปรับความเร็วได้อย่างไม่สะดุด เมื่อเผชิญกับความต้องการที่ซับซ้อนต่างๆ ในระบบสระว่ายน้ำ ปั๊มสระว่ายน้ำอินเวอร์เตอร์สามารถคำนวณอัตราการไหลให้เหมาะสมกับงานนั้นๆ ได้อย่างแม่นยำ ช่วยลดเสียงการทำงานของมอเตอร์และพัดลมระบายความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  1. การควบคุมอย่างชาญฉลาด – ความแตกต่างที่สำคัญ

ความฉลาดในการควบคุม เป็นข้อแตกต่างที่สำคัญระหว่างปั๊มสระว่ายน้ำทั้ง 3 ประเภท

  • ปั๊มแบบความเร็วเดียว
    ปั๊มความเร็วเดียวไม่มีระบบควบคุมอัจฉริยะ เนื่องจากสามารถเปิดหรือปิดได้โดยไม่มีฟังก์ชันเพิ่มเติมในการปรับหรือควบคุมใดๆ
  • ปั๊มแบบปรับความเร็วได้
    ปั๊มสระว่ายน้ำแบบปรับความเร็วได้ช่วยให้เจ้าของสระสามารถตั้งค่าความเร็วมอเตอร์ที่แตกต่างกันได้ตามความต้องการ บางรุ่นยังมีฟังก์ชันตั้งเวลาในการทำงาน ทำให้สามารถทำงานด้วยความเร็วสูงในตอนกลางวันและทำงานด้วยความเร็วต่ำในตอนกลางคืนได้
  • ปั๊มอินเวอร์เตอร์
    ปั๊มสระว่ายน้ำระบบอินเวอร์เตอร์มีฟังก์ชัน “เรียนรู้ด้วยตนเอง” ในตัวซึ่งจะปรับความเร็วได้อย่างชาญฉลาดและแม่นยำ สามารถควบคุมช่วงความเร็วได้หลากหลายโดยไม่สะดุด ตอบสนองได้อย่างยืดหยุ่นในสถานการณ์ต่างๆ เช่น การหมุนเวียนรายวันและการทำ Backwash เมื่อเกิดแรงดันเกินค่าที่กำหนด ปั๊มสระระบบอินเวอร์เตอร์จะ “เรียนรู้” อีกครั้งและปรับความเร็วโดยอัตโนมัติเพื่อให้การไหลของน้ำเป็นไปตามการตั้งค่าของผู้ใช้ การควบคุมอัจฉริยะนี้ช่วยให้มั่นใจได้ว่าการทำงานของระบบการกรองและหมุนเวียนน้ำมีความ

บทสรุป

ด้วยการปฏิบัติตามกฎระเบียบ DPPP ทำให้ความต้องการปั๊มสระว่ายน้ำแบบปรับความเร็วได้เพิ่มขึ้นอย่างมาก ในขณะที่ปั๊มความเร็วเดียวทำให้สิ้นเปลืองพลังงานและมีเสียงรบกวนสูง ปั๊มสระว่ายน้ำแบบปรับความเร็วได้และแบบอินเวอร์เตอร์ จึงเป็นอีกทางเลือกที่มีประสิทธิภาพและเงียบกว่า ปั๊มแบบปรับความเร็วรอบได้มีตัวเลือกความเร็วที่หลากหลาย ในขณะที่ปั๊มระบบอินเวอร์เตอร์มีการควบคุมความเร็วขึ้นทีละน้อย การประหยัดพลังงาน และการควบคุมอัจฉริยะ ในขณะที่อุตสาหกรรมสระว่ายน้ำยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ปั๊มสระว่ายน้ำระบบอินเวอร์เตอร์ขอเป็นตัวแทนในการพัฒนาเทคโนโลยีของปั๊มสระว่ายน้ำให้ก้าวหน้าต่อไป